เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมาสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงรับรองคุณธรรมขั้นสูงของบุคคล 4 คน ซึ่งต่อจากนี้พวกเขาจะมีคำนำหน้าว่า “ผู้ควรเคารพ” และดำเนินเรื่องต่อไปนี้เพื่อจะเป็นบุญราศี และนักบุญในอนาคต หนึ่งใน 4 คนนี้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นผู้อยู่ในกระบวนการพิจารณาสู่การเป็นนักบุญของพระศาสนจักรคาทอลิกที่มีอายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน หนุ่มน้อยคนนี้มีชื่อว่า คาร์โล อาคูติส (Carlo Acutis)
คาร์โลเป็นชาวอิตาเลียน เกิดที่ลอนดอนในปี ค.ศ. 1991 พ่อแม่กลับมาอยู่มิลาน ภายหลังที่เขาเกิดไม่นานนัก เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนของเยสุอิตที่มิลาน คาร์โลได้ยึดแบบอย่างของนักบุญ 6 องค์ดำเนินชีวิตและชอบแสวงบุญโดยเฉพาะที่อัสซีซี
ต่อมาคาร์โลถูกตรวจพบว่า ตนเองเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด เมื่อรู้ดังนั้นเขากล่าวกับครอบครัวว่า “ผมขอถวายความเจ็บปวดทรมานนี้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า แด่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และแด่พระศาสนจักร”
คาร์โลได้ใช้สื่อจากโลกออนไลน์ เพื่อเขียนเว็บไซด์ขึ้นหนึ่งปีก่อนเขาเสียชีวิต เว็บไซต์นี้รวบรวมอัศจรรย์แห่งศีลมหาสนิทจากทั่วโลก ที่เขาต้องการจะไปแสวงบุญแต่ด้วยสภาพร่างกายไม่พร้อม จึงไม่สามารถทำตามคำขอได้
คาร์โลเสียชีวิตที่เมืองมอนซ่า ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ด้วยวัยเพียง 15 ปี ศพของเขาถูกนำไปฝังที่เมืองอัสซีซีตามความต้องของเขา ที่อยากอยู่ที่เมืองของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี หลังจากนั้นไม่นานพระสังฆราชและพระคาร์ดินัลที่ทำงานในมหาวิหารนักบุญเปโตร ได้สนับสนุนเรื่องเราวที่คาร์โลได้ลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของเขา และเผยแพร่ให้คนที่ได้รับชมผ่านงานนิทรรศการของเขา โดยหมุ่นเวียนไปยังประเทศต่างๆ จนครบ 5 ทวีปภายในไม่กี่ปี
หลังจากที่คาร์โลเสียชีวิตเพียง 7 ปี ในปี ค.ศ. 2013 สภาพระสังฆราชแห่งลอมบาเดีย (กลุ่มสังฆมณฑลทางตอนเหมือนของอิตาลีบางส่วนที่มีมิลานเป็นศูนย์กลาง) ได้เริ่มกระบวนการดำเนินเรื่อง เพื่ให้พระศาสนจักรรับรองคาร์โลเพื่อเป็นนักบุญในอนาคต พระศาสจักรเริ่มมีนักบุญหรือบุญราศีใหม่ๆ ที่ไม่ใช่บุคคลแต่งตัวแบบโบราณสมัยหลายร้อยปีที่แล้ว หรือมีเพียงแต่รูปวาดตามจินตภาพเท่านั้น แต่เป็นคนที่ใส่เสื้อยืดกางเกงยืนส์สวมแว่นตาดำ เรากำลังจะมีนักบุญที่เคยมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และอื่นๆ ที่ร่วมสมัยกับเรา
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ เมื่อใดที่เราเห็นเยาวชนหรือคนร่วมสมัยกับเรา ก้าวเข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักร นั่งแสดงให้เรารู้ว่าพระศาสนจักรยังจะคงอยู่ได้ และยังคงมีความหวังเรื่อยไปในอนาคต เพราะแม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด คนจำนวนมากมายก็ยังคงรักษาความเชื่อไว้ได้อย่างดี มั่นคงเรื่อยมา และสืบต่อไปในอนาคตตราบจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง