กระดองเต่า...กับกางเขนของเรา
ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา วันที่ฝนฟ้าถล่มกรุงเทพฯ แม้จะเป็นโรงเรียนใหญ่ใจกลางเมือง แต่บริเวณภายในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ บ่อน้ำ และความร่มรื่น …ระหว่างเดินไปห้องน้ำจึงพบกับ “เต่า” … ใช่ครับเต่านี่แหละถูกต้องแล้ว กำลังเดินอยู่กลางถนน คงออกมาเดินเล่นฝนจากบ่อในสวนของโรงเรียน
ความคิดหนึ่งแว๊บเข้ามา ในระหว่างเดินกลับมานั่งทำงานต่อ “เต่ามันจะรู้สึกนะกระดองมันไหมนะ??” จึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ “กระดองเต่า” หาวนไป … ข้อมูลที่พบคือขนาดกระดองที่ใหญ่ จะทำให้เต่ามีน้ำหนักมากขึ้นตามขนาดกระดองด้วยเช่นกัน คำตอบและความคิดต่าง ๆ เริ่มค่อย ๆ พรั่งพรูออกมา นั่นสิ! เพราะกระดองคือส่วนหนึ่งของเต่า จะหาน้ำหนักได้ ก็ต่อเมื่อมันตาย เน่าเปื่อยและเหลือเพียงกระดองเท่านั้น จึงจะรู้ว่ากระดองมีน้ำหนักเท่าไร
บทเรียนที่ผมได้จากเต่าตัวนั้น ที่อยากจะแบ่งปันพี่น้องทุกคนคือ ในเมื่อ “กระดองเต่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเต่า” มันคงไม่รู้สึกหนักเลย เพราะติดตัวมันมาตั้งแต่ออกจากไข่แล้ว แต่ในเวลาเดียวกัน เพราะกระดองนี่แหละ ที่คอยป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสู่ชีวิตของมัน ไม่ว่าจะจากผู้ล่า หรือจากศัตรูใด ๆ ก็ตาม หัวและขาทั้งสี่ของมันสามารถหดเข้าไปในกระดองได้ จึงทำให้มันมีชีวิตที่ยืนยาว กระดองที่หนา แข็ง และหนักนี่เอง ที่รักษาชีวิตของเต่าเอาไว้ และเราคงเคยได้ยินเรื่องราวการวางไข่ของเต่าทะเล มันจะไม่สนใจอะไรเลยทั้งสิ้น แม้คนจะขึ้นไปนั่ง หรือวางอะไรหนัก ๆ บนตัวมัน … มันจะออกแรงตะกุยทราย เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ทะเล แหล่งอาหารและชีวิตของมัน
เมื่อมองผ่าน “กระดองเต่า” มาถึงชีวิตคริสตชนของเรา บ่อยครั้งเรารู้สึกว่าภาระหน้าที่ ความทุกข์ ความยากลำบาก หรืออะไรก็ตามแต่ที่เข้ามาในชีวิตของเรา แบบที่เราไม่ต้องการ นั่นคือ “กางเขน” ในชีวิตของเรา … ในวันที่พระเยซูเจ้าทรงรับแบกไม้กางเขน พระองค์มิได้ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย พระองค์ยอมรับ และให้พวกเขาเหล่านั้น วางลงบนบ่าของพระองค์ด้วยความรัก และหวังเพียงให้เราได้รับชีวิตนิรันดร
หากเราสำนึก หรือตระหนักเพียงสักนิดว่า “กางเขน” ไม่ใช่ภาระอันหนักอึ้ง แต่กางเขนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เป็นสิ่งที่อยู่กับเรามาตั้งแต่แรกของการเป็นคริสตชน หากกางเขนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราเช่นนี้แล้ว เราจะกล้าปฏิเสธ หรือไม่เต็มใจจะแบกไม้กางเขนไว้ได้อย่างไร?? … เพราะกางเขนของพระองค์นี้แหละ ที่ทำให้บาป และศัตรูฝ่ายวิญญาณของเราพ่ายแพ้ไป เพราะกางเขนนี่แหละ ที่ไถ่ถอนเราไว้จากความตายอันนิรันดร
การแบกกางเขนนี้ และดำเนินไปบนหนทางแห่งชีวิตของเรา ด้วยสำนึกในความรักของพระองค์ ปฏิบัติตามคำสอน และพระวาจาของพระองค์ ด้วยความอดทน และความหวังอย่างสิ้นสุดจิตใจว่า ณ ปลายทางอันเที่ยงแท้ เราจะได้พบชีวิตนิรันดร จากกางเขนแห่งความรักของพระองค์ ที่ส่งมอบไว้ให้แก่เราในชีวิต