แม่พระรู้!
ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นสังคมใหม่ที่ผมพยายามเรียนรู้และปรับตัว เพราะมีเพื่อนใหม่ที่มาจากโรงเรียนต่าง ๆ เกือบทุกจังหวัด สิ่งที่ผมยึดถือเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ คือการช่วยเหลือ แบ่งปัน บทเรียนใดที่เพื่อน ๆ ไม่เข้าใจ ผมจะช่วยอธิบายหรือติวให้ก่อนสอบด้วยความทุ่มเท เพื่อให้เพื่อน ๆ ทุกคนสอบผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากการเรียนในคณะของผมค่อนข้างยาก หากวิชาใดสอบไม่ผ่านหรือติด “F” อาจทำให้ไม่สามารถเรียนจบหลักสูตรภายใน 4 ปี จึงทำให้ทุกครั้งที่มีการสอบ เพื่อน ๆ ที่เกรดเฉลี่ยไม่ดีจะมีความกังวลมาก
วันใกล้สอบวันหนึ่ง เพื่อน ๆ บอกให้ผมเลือกที่นั่งสอบด้านหน้า เพื่อให้เพื่อนคนอื่น ๆ นั่งต่อท้าย เมื่อเวลาเพื่อนทำข้อสอบไม่ได้จะได้ถามผมซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า การสอบที่ผ่านมาทุกครั้ง อาจารย์จะให้นักศึกษาเลือกที่นั่งเอง เนื่องจากข้อสอบเป็นอัตนัยทั้งหมด อาจารย์จึงไม่เข้มงวดกับการเลือกที่นั่ง เมื่อวันสอบมาถึงเพื่อน ๆ ก็มาสั่งผมอีกครั้งให้เลือกที่นั่งตามที่พวกเขาเคยบอกไว้ ผมลำบากใจมากเพราะชีวิตในโรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ 15 ปี บอกให้ผมเป็นคนซื่อสัตย์ ทุกครั้งที่สอบครูที่โรงเรียนก็จะบอกให้พวกเราทำข้อสอบด้วยความสามารถของตนเอง มีความซื่อสัตย์ ห้ามทุจริต คำที่ครูสั่งสอนอยู่ในใจผมเสมอ
แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารเพื่อน อยากให้ทุกคนสอบผ่าน ผมยืนอยู่หน้าห้องสอบ นึกในใจว่า
“จะมีใครรู้ความลำบากใจของผมไหมนะ ผมไม่อยากทำผิด ผมอยากให้ทุกคนทำข้อสอบด้วยความซื่อสัตย์ เขาจะได้ภูมิใจ ผมจะทำยังไงดี ขอให้การสอบวิชานี้ผ่านไปด้วยดีไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นด้วยเถอะ”
นักศึกษาทุกคนเข้าไปนั่งในห้องสอบตามที่ได้นัดหมายกันไว้ ผมนั่งอยู่ด้านหน้าแถวที่ 2 ส่วนเพื่อน ๆ นั่งต่อท้ายผม เมื่ออาจารย์แจกข้อสอบเสร็จ อาจารย์พูดว่า “วันนี้อาจารย์ขอจัดที่นั่งสอบใหม่ ขอให้นักศึกษานั่งเรียงตามเลขที่” นักศึกษาทุกคนนั่งนิ่งไม่มีใครยอมลุกขึ้น อาจารย์ประกาศเป็นครั้งที่ 2 และเรียกชื่อเรียงตามเลขที่ เมื่อจัดที่นั่งเสร็จปรากฎว่า
….ผมนั่งเป็นคนสุดท้ายชิดผนังหลังห้อง ไม่มีใครได้นั่งต่อจากผมเลย…
เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ ผมเดินออกจากห้องสอบด้วยความสบายใจ นึกในใจว่า
“อย่างน้อย วันนี้ก็มีแม่พระที่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
แล้วผมก็กลับไปขอบคุณแม่พระที่โรงเรียนอย่างที่เคยทำมาโดยตลอด
ขอบคุณแม่พระ สำหรับการดูแลบนเส้นทางที่ผมเลือก
ผมสัญญาว่าผมจะเป็นคนดี
มน. 14
ศิษย์เก่าพระมารดานิจจานุเคราะห์