กล่าวทักทายแม่พระด้วยบทวันทามารีย์ กุหลาบงามถวายแด่พระแม่
มีคนเคยแนะนำให้เราวางสายประคำไว้ ใต้หมอน แม้จะเป็นอันเล็กๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ สำหรับคนที่เชื่อ ทำให้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้มีอาการนอนไม่หลับ หลายครั้ง เราอาจตื่นขึ้นมาพร้อมกับสายประคำในมือ และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ การกระทำเช่นนี้จะมีความหมายมากขึ้น เมื่อเราทราบที่มาของเรื่องราวสวยงามที่เล่าต่อกันมา
เราอาจมีคำถามว่า ใครเป็นคนคิดมูลค่า ซ้ำๆ เวลาเราสวดสายประคำพระแม่มารีย์ ประเด็นคือ อะไร ทุกครั้งที่เราสวดอ้อนวอน วันทามารีย์แต่ละบท คือดอกกุหลาบล้ำค่า ถวายแด่พระแม่มารีย์
มีเรื่องเล่าว่าในสมัยก่อน ภราดาเลโก คณะโดมินิกัน ซึ่งอ่านหนังสือไม่ออก ดังนั้น ท่านจึงไม่สามารถสวดบทเพลงสดุดี พร้อมกันกับภราดาคนอื่นๆ ได้ เมื่อท่านทำงานเสร็จในตอนค่ำ ท่านจึงไปที่วัดของอาราม คุกเข่าต่อหน้าพระรูปพระแม่มารีย์ และสวด บทวันทามารีย์ 50 บท (ตามจำนวนบทเพลงสดุดีในพระคัมภีร์) จากนั้นท่านจึงจะไปพักผ่อนที่ห้องพัก และในตอนเช้าตรู่ ท่านจะลุกขึ้นก่อนบรรดาภราดาทั้งหมด เพื่อไปวัดกล่าวบททักทายแม่พระ (วันทามารีย์)
ทุกวัน เมื่ออธิการไปถึงวัดน้อย เพื่อร่วมสวดทำวัตรเช้ากับสมาชิกภราดาคนอื่นๆ ท่านได้กลิ่นหอมของดอกกุหลาบ ท่านสงสัยว่ากลิ่นหอมนี้มาจากไหน จึงถามทุกคนว่าใครเป็นคนตกแต่งดูแลการประดับ แท่นพระแม่มารีย์ด้วยดอกกุหลาบอย่างสวยงาม ซึ่งคำตอบก็คือไม่มีใครมาจัดดอกไม้ และพุ่มกุหลาบ ในสวนก็ไม่ได้หายไปเลยแม้แต่ดอกเดียว
ต่อมา ภราดาเลโกท่านนี้ป่วยหนัก และภราดาคนอื่นๆ รู้สึกว่าแท่นบูชาของพระแม่มารีย์ไม่มีดอกกุหลาบตามปกติ จึงสรุปได้ว่า ภราดาเลโกเป็นผู้ที่นำดอกกุหลาบมาจัดวางไว้ที่พระแท่น อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคยเห็นภราดาเลโกเดินออกจากอาราม และไม่รู้ว่าท่านไปนำดอกกุหลาบสวยงามเหล่านี้มาจากไหน เช้าวันหนึ่ง ภราดาเลโกฟื้นจากอาการป่วย แต่บรรดา ภราดาคนอื่นๆ หาท่านไม่พบ และในที่สุดก็มาพบท่านที่วัด ทุกคนต่างประหลาดใจ เพราะภราดาเลโกคุกเข่าอยู่หน้าพระรูปพระแม่มารีย์ และสวดวันทามารีย์อย่างสงบสันติ และแต่ละครั้งที่ท่านสวดบทวันทามารีย์จบแต่ละบท ก็มีดอกกุหลาบปรากฏขึ้นมาเต็มแจกัน และเมื่อท่านสวดบทภาวนาวันทามารีย์ 150 ครั้งจบ ท่านก็เสียชีวิตลงแทบพระบาทของพระแม่มารีย์
- เมื่อคุณถือสายประคำ ปีศาจจะปวดหัว
- เมื่อคุณใน สายประคำ ปิศาจจะล่มสลาย
- เมื่อปีศาจเห็นคุณสวดสายประคำ มันจะหายตัวไป