อานุภาพแห่งการสวดสายประคำ
ใครมาส่งถ่านหิน
เมื่อดิฉันยังเป็นเด็ก ครอบครัวของเรามีปัญหา เรื่องเงินอย่างหนัก ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และคุณพ่อของดิฉันก็ตกงาน อากาศหนาวจัด และเรามีถ่านหินเพียงพอสำหรับให้ความอบอุ่นแก่ ครอบครัวของเราได้เพียงอีกหนึ่งคืน
ระหว่างอาหารค่ำ คุณพ่อคุณแม่ของเราบอก ลูกๆ ของท่านทั้งเก้าคนเรื่องสถานการณ์ของเรา และ กล่าวอย่างเศร้าใจว่า ถ้าในคืนนั้นเราไม่ได้รับถ่านหิน ปันส่วนที่รัฐแจกจ่ายให้เพื่อบรรเทาทุกข์ เราจะต้อง ไปอยู่บ้านรับเลี้ยงเด็กในวันรุ่งขึ้น เราไม่มีที่จะอยู่แล้ว
หลังอาหารค่ำ เราทุกคนคุกเข่าลงและสวด สายประค่าพร้อมกัน เมื่อเราสวดได้เกือบจบสาย เราได้ยินเสียงรถบรรทุกวิ่งเข้ามาในซอยบ้านของเรา เรารอคอยด้วยความหวังและได้ยินเสียงเคาะที่ประตู
คุณพ่อคว้าเสื้อคลุม กล่าวว่า “พ่อจะไปช่วย เขาขนของลงจากรถ”
เราสวดสายประค่าต่อจนจบด้วยความยินดี อย่างยิ่ง แต่เมื่อคุณพ่อกลับเข้ามาในบ้าน ท่านมีสีหน้า งุนงง ท่านบอกคุณแม่ว่า “พ่อไม่คิดว่านั่นเป็นของ บรรเทาทุกข์ พ่อไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นมาก่อน และเขาก็ไม่ได้ให้พ่อเซ็นเอกสารใดๆ” เราทุกคน สงสัยว่าชายคนนั้นเป็นใครขณะที่เราเตรียมตัว เข้านอน ในบ้านที่อบอุ่นมากขึ้น
วันรุ่งขึ้น เราได้รับถ่านหินอีกเที่ยวหนึ่ง คุณแม่ บอกคนขับรถ ซึ่งเป็นญาติของท่านว่า “เราได้รับ ถ่านหินเที่ยวหนึ่งจากคนขับอีกคนหนึ่งเมื่อคืนนี้ เขาหัวเราะและพูดว่า “ผมเป็นคนเดียวในบริเวณนี้ ที่ส่งถ่านหินบรรเทาทุกข์ ถ้าเธอได้รับถ่านหินเที่ยวหนึ่ง เมื่อคืนนี้ คงเป็นนักบุญโยเซฟที่เอามาส่ง!”
เราไม่รู้ว่าชายคนนั้นจะเป็นนักบุญโยเซฟหรือ ทูตสวรรค์ เราไม่เคยได้รับบิลสำหรับถ่านหินเที่ยวนั้น พระแม่มารีย์ไม่ทรงต้องการให้ลูกๆ ของพระนางถูก ส่งไปอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก เราขอบพระคุณพระเจ้า สําหรับอานุภาพของสายประคำ
Mary F. Pitstick Fairborn, Ohio
เรื่องอัศจรรย์จากสายประคำของดิฉันเกิดขึ้น ขณะที่ดิฉันยังอยู่ที่บ้านกับบิดามารดา และพี่ชาย วันนั้นเป็นคืนวันเสาร์ และเรากำลังเจอกับพายุลูกใหญ่
ห้องใต้ดินของเรามีช่องเปิดอยู่ที่พื้นห้อง และน้ำกำลังไหลทะลักเข้ามาท่วมพื้นห้องใต้ดิน คุณพ่อและคุณแม่ต้องสวมรองเท้าบู๊ต และพยายาม ใช้ไม้ถูพื้นและไม้กวาดตักน้ำใส่กระป๋องให้ได้มากที่สุด ซ่อมให้โดยมีเงื่อนไขว่าเราต้องจ่ายเงิน 60 ดอลลาร์ เป็นค่าใช้จ่ายในการทํางานนอกสถานที่ของเขา นี่คือราคาที่เราต้องจ่ายก่อนเขาจะเริ่มทำงาน
คุณแม่อยู่ข้างบนบ้าน ส่วนดิฉันอยู่ในห้องนอน และสวดสายประคำวอนขอความช่วยเหลือสำหรับ เหตุฉุกเฉินนี้ ดิฉันคงสวดเกือบจบสายแล้ว เมื่อดิฉัน ได้ยินเสียงคุณพ่อและพี่ชายพูดกัน เหมือนกับว่า ได้เกิดอะไรขึ้น ดิฉันลุกขึ้นและเดินลงไปดูข้างล่าง คุณพ่อกำลังยืนจ้องช่องที่น้ำไหลเข้ามา ดิฉันถามท่าน ว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณพ่อไปร่วมพิธีมิสซาในวันอาทิตย์ ท่านส่ง เราเข้าโรงเรียนคาทอลิก และท่านเชื่อในพระเจ้า แต่นอกจากนั้นท่านไม่ใช่คนศรัทธาอะไรนัก ดิฉัน ไม่ได้บอกพ่อและพี่ชายว่าดิฉันเพิ่งสวดสายประคำ และครอบครัวของดิฉันก็ไม่รู้ว่าดิฉันสวดขอความ ช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมห้องใต้ดิน
คุณพ่อหันมาทางดิฉันและถามว่า “ลูกกำลัง คุณพ่อติดต่อช่างประปาคนหนึ่งได้ เขาตกลงว่าจะมา สวดอยู่หรือเปล่า?”
ดิฉันตอบว่า “ใช่ค่ะ” ดิฉันรู้ว่าคุณพ่อรู้ว่า คำภาวนาของดิฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำที่หยุดไหล เข้ามาอย่างกะทันหัน ช่างประปามาถึงบ้านเราแล้ว และเริ่มต้น “ทํางานนอกสถานที่” ของเขาแล้ว แต่เขา บอกเราว่าเขาจะไม่คิดค่าใช้จ่ายกับเรา
เหตุการณ์นั้นเป็นทั้งอัศจรรย์ใหญ่และ อัศจรรย์เล็ก ข้างนอกบ้านฝนยังตกอยู่ ดังนั้น คำภาวนา ของดิฉันไม่ได้ทำให้ฝนหยุดตกด้วย แต่น้ำฝนหยุดไหล เข้ามาในห้องใต้ดินของเรา แม่พระจะไม่ทรงทำให้เรา ผิดหวังถ้าเรามีความเชื่อ พระนางทรงเป็นมารดา ผู้เปี่ยมด้วยความรักอย่างแท้จริง
Elisabeth M. Crupi Scardale, New York