สารของแม่พระฟาติมา
ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 13 ตุลาคม ค.ศ. 1917 พระนางพรหมจารีมารีย์ได้ประจักษ์มา 6 ครั้ง ที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกสแก่เด็กเลี้ยงแกะ 3 คน ได้แก่ ยาชินทา มาร์โต (Jacinta Marto) อายุ 7 ขวบ ฟรังซิสโก มาร์โต (Francisco Marto) พี่ชายอายุ 9 ขวบ และลูซีอา โดสซันโตส (Lucia Dos Santos) ลูกพี่ลูกน้องวัย 10 ขวบ ผู้รับการประจักษ์ 2 คนแรกเสียชีวิตในวัยเยาว์ ตามที่แม่พระได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า คือยาชินทาเสียชีวิตในปี 1920 ขณะที่อายุ 9 ขวบ ส่วน ฟรังซิสโกในปี 1919 ด้วยวัย 11 ขวบ ส่วนลูซีอานั้น แม่พระกล่าวว่าเธอจะอยู่บนโลก “นานกว่าบ้าง” ลูซีอาได้สมัครเป็นภคินีคณะคาเมไลท์และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2005 อายุ 97 ปี
ฟาติมาเป็นสักการสถานแม่พระที่มีผู้คนมารแสวงบุญมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก พระศาสนจักรรับรองการประจักษ์ของแม่พระฟาติมาอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เสด็จเยือนฟาติมาในปี 1967 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เสด็จในปี ค.ศ. 2010 และนักบุญพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เสด็จเยือนฟาติมาถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1982 เพื่อขอบพระคุณแม่พระแห่งฟาติมาที่ทรงช่วยให้พระองค์รอดชีวิตจากการถูกลอบยิง ที่จัตุรัสนักบุญเปโตรเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1981 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 ในพิธีบันทึกนามเป็นบุญราศีของยาชินทาและฟรังซิสโก ทั้งสองจึงเป็นบุญราศีที่อายุน้อยที่สุดในพระศาสนจักร ข้อความต่อไปนี้คัดจากบทเทศน์ของนักบุญพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ในวันนั้น
ตามแผนการของพระเจ้า ‘สตรีผู้หนึ่งมีดอวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์’ (วว 12:1) ลงมาจากสวรรค์สู่โลกนี้เพื่อเยี่ยมเยียนลูกๆ ของพระบิดา ที่ได้รับสิทธิพิเศษ พระนางกล่าวแก่พวกเขาด้วยดวงหทัยและน้ำเสียงของผู้เป็นมารดา พระนางบอกพวกเขาให้ถวายตัวเป็นยัญบูชาเพื่อชดเชยบาป และกล่าวด้วยว่าพระนางพร้อมที่จะนำพวกเขาไปหาพระเจ้าอย่างปลอดภัย… ‘เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง’ (วว 12:3) ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้เราคิดถึงการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างความดีและความชั่ว แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ไม่สามารถมีความสุขได้เมื่อไม่มีพระเจ้าประทับอยู่เคียงข้าง และที่สุดมนุษย์ก็จะทำลายตัวเองในช่วงเวลาศตวรรษสุดท้ายของสหัสวรรษที่สอง มนุษย์ตกเป็นเหยื่อของความชั่วร้ายมากเพียงใด เรายังคงจดจำความร้ายกาจน่าหวาดหวั่นของสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสงครามโลกอีกหลายแห่ง ค่ายกักกันและค่ายมรณะ ค่ายนักโทษในรัสเซีย การทำลายล้างชาติพันธุ์การกดขี่ข่มเหง การก่อการร้ายการลักพาตัว ยาเสพติด การฆ่าตัวอ่อนมนุษย์ และการทำลายสถาบันครอบครัว
สารของแม่พระฟาติมาเรียกร้องให้มีการกลับใจ
การตื่นตัวของมนุษยชาติที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ “มังกร” ที่ ‘หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้า ให้ตกลงมาบนแผ่นดิน’ (วว 12:4) เป้าหมายสุดท้ายของมนุษย์คือสวรรค์ซึ่งเป็นบ้านแท้ที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ ทรงรอคอยที่จะต้อนรับทุกคนด้วยความรักและพระเมตตา… ด้วยความห่วงใยฉันมารดา พระนางพรหมจารีมารีย์ประจักษ์มาที่ฟาติมาเพื่อขอร้องมนุษย์ชายหญิง ‘หยุดกระทำการเป็นที่ขัดเคืองพระทัยของพระเจ้า มนุษย์ได้ล่วงละเมิด ขัดเคืองพระทัยของพระองค์มากทีเดียว’ ความเศร้าโศกของผู้เป็นมารดาทำให้พระนางต้องกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่มีผลต่ออนาคตที่แท้จริงของลูก ๆ ด้วยเหตุนี้พระนางจึงขอให้เด็กเลี้ยงแกะทั้งสาม ‘สวดภาวนา สวดภาวนาให้มากและทำพลีกรรมแทนคนบาปทั้งปลายวิญญาณจำนวนมากตกนคร เพราะไม่มีผู้ใดสวดภาวนาและทำพลีกรรมให้’ ยาชินทารู้สึกหวั่นไหวมากกับภาพนรกที่แลเห็นในวันที่ 13 พฤษภาคม จนเธอคิดว่าไม่มีพลีกรรมหรือการใช้โทษบาปใดจะมากพอที่จะช่วยคนบาปได้…
เด็กชายและเด็กหญิงที่รักทั้งหลาย แม่พระต้องการให้พวกเธอทุกคนช่วยปลอบประโลมพระทัยของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเศร้าพระทัยเพราะสิ่งชั่วร้ายที่คนบาปกระทำต่อพระองค์ พระองค์ทรงต้องการคำภาวนาและการพลีกรรมของพวกเธอชดเชยการล่วงละเมิดพระองค์ของคนบาป พ่ออยากให้พวกเธอขออนุญาตผู้ปกครองและคุณครูลงทะเบียนเรียนใน “โรงเรียน” ของแม่พระ เพื่อแม่พระจะได้สอนพวกเธอเช่นเดียวกับที่ได้สอนเด็กเลี้ยงแกะทั้งสามที่พยายามทำทุกสิ่งตามที่พระนางสอน พ่อขอบอกพวกเธอว่า ‘ในการมอบตัวเข้าพึ่งพาพระนางมารีย์นั้น เราสามารถเจริญก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณได้ในเวลาอันสั้น แทนที่จะต้องใช้เวลานานแรมปี หากเราคิดหาวิธีการเองและฝึกฝนตามลำพัง’ (นักบุญหลุยส์เดอมงฟอร์ต, ข้อ 155) วิธีที่เด็กเลี้ยงแกะทั้งสามเป็นนักบุญอย่างรวดเร็ว คือการอุทิศตนด้วยความใจกว้างอย่างเต็มที่ตามแนวทางของครูผู้สอนที่ดีเช่นแม่พระ และเป็นวิธีที่ยาชินทาและฟรังซิโกก้าวสู่ความครบครันได้อย่างรวดเร็ว”
สารของแม่พระฟาตมาคืออะไรหรือ คำตอบสั้น ๆ คือ การสวดภาวนา การใช้โทษบาปและการกลับใจ
ในปี 1917 พระนางพรหมจารีมารีย์บอกความลับอย่างหนึ่งให้แก่เด็กเลี้ยงแกะทั้งสาม ซิสเตอร์ลูซีอาได้เปิดเผยความลับ สองส่วนในสมุดบันทึกของเธอในปี ค.ศ. 1941 และเปิดเผยส่วนที่สามเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 ในโอกาสพิธีบันทึกนามในสารบบบุญราศีของยาชินทาและฟรังซิสโก ความลับสองส่วนแรกที่ซิสเตอร์ลูกซีอาที่เปิดเผยได้แก่
“ความลับทั้งหมดมีสามส่วน ดิฉันขอเปิดเผยความลับสองส่วนแรกดังนี้ ส่วนแรกเป็นภาพของนรก แม่พระให้เรามองเห็นทะเลเพลิงขนาดใหญ่ดูเหมือนอยู่ใต้โลกของเรา ปีศาจและวิญญาณในร่างของมนุษย์กระโจนลงไปใน ทะเลเพลิงนี้ ร่างเหล่านี้มีลักษณะเป็นเถ้าถ่านที่กำลังลุกไหม้และโปร่งแสง ทั้งหมดเป็นสีดำหรือสีบรอนซ์มันเงา ล่องลอยอยู่เหนือกองเพลิงใหญ่ และเปลี่ยนไปลอยอยู่เหนือเปลวไฟที่พวยพุ่งออกมาจากภายในร่าง และมีกลุ่มควันเป็นก้อน ๆ ขนาดใหญ่ แผ่ออกแล้วร่างเหล่านั้นก็ตกกลับลงไปชนด้านล่างข้าง เกิดประกายไฟเป็นลูกไฟขนาดมหึมาที่ไร้น้ำหนักและฉวัดเฉวียนไปมิขณะเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้อง และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและหมดหวัง พวกเราตกใจกลัวจนปากคอสั่น ปีศาจเหล่านั้นมีรูปร่างเหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนต่างมีสภาพน่ากลัวจนขนลุกขนพอง ทุกตัวมีสีดำและโปร่งใส ภาพที่เห็นกินเวลาเพียงชั่วครู่ เราทั้งสามไม่รู้จะรู้สึกสำนึกบุญคุณเพียงพอได้อย่างไรต่อพระมารดาสวรรค์ผู้ใดดี พระนางสัญญาตั้งแต่การประจักษ์ครั้งแรกว่าได้เตรียมพาพวกเราไปสวรรค์ ดิฉันคิดว่าพวกเราคงเสียชีวิตกันหมดด้วยความกลัวและความสยดสยอง
จากนั้น เราก็เงยหน้ามองไปที่พระนางมารีย์ผู้กล่าวแก่เราอย่างนุ่มนวลและเศร้าสร้อยมากกว่า “พวกเธอได้เห็นนรกซึ่งเป็นที่อยู่ของวิญญาณคนบาปที่น่าสงสารแล้ว การที่จะช่วยวิญญาณไม่ให้ตกนรกนั้น พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้โลกถวายความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่ หากทำตามที่แม่บอกนี้ วิญญาณจำนวนมากจะรอดและมีสันติสุข สงครามจะยุติแต่หากพวกเขาไม่หยุดที่จะทำขัดเคืองพระทัยของพระเจ้า ก็จะมีสงครามเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ในสมณสมัยพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 (ค.ศ. 1922-1939) คืนใดที่เห็นแสงประหลาดเกิดขึ้น จงรู้เถิดว่านั่นคือเครื่องหมายสำคัญของพระเจ้าก่อนจะทรงลงอาญาอาชญากรรมที่โลกก่อขึ้น ซึ่งหมายถึงการทำสงคราม ความอดอยาก และการเบียดเบียนพระศาสนจักรและพระสันตะปาปา วิธีป้องกันไม่ให้เกิดการลงทัณฑ์ดังกล่าวคือ แม่ขอให้มีการถวายประเทศรัสเซียให้กับดวงหทัยนิรมลของแม่ และการสนิทสัมพันธ์ของดวงหทัยของแม่และพระหฤทัยของพระเยซู เพื่อการชดเชยบาปหากปฏิบัติตามคำขอของแม่ ประเทศรัสเซีย จะกลับใจและเกิดสันติสุข มิฉะนั้นประเทศรัสเซียจะแพร่ความชั่วร้ายไปทั่วโลก จะเกิดสงครามและการเบียดเบียนศาสนา คนดีจะเป็นมรณสักขี พระสันตะปาปาจะทรงประสบความทุกข์อย่างแสนสาหัส หลายชาติจะถูกทำลายล้าง แต่ที่สุดดวงหทัยนิรมลของแม่จะมีชัย สมเด็จพระสันตะปาปาจะถวายประเทศรัสเซียให้แม่ และประเทศรัสเซียจะกลับใจและจะมีสันติภาพเกิดขึ้นในโลก”
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงถวายสมณสมัยของพระองค์ในความคุ้มครองของแม่พระฟาติมา พระองค์ได้ทรงภาวนาว่า…
“ลูกขอถวายศาสนบริการของสมณสมัยพระสันตะปาปาแด่พระมารดาของพระศาสนจักร…เพื่อพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระแม่ จะทรงโอบกอดมวลมนุษย์ชาติและหญิงในยุคนี้ด้วยความรักของพระองค์ โปรดประทานพระคุณในการหยั่งทราบความถูกต้องเที่ยงตรง เพื่อชี้นำทางเดินและเพื่อฟื้นฟูพระศาสนจักรขึ้นใหม่ โปรดประทานความกล้าหาญที่จะไม่รีรอก้าวเดินไปตามทางที่พระจิตเจ้าดลใจ โปรดปกป้องลูกทั้งหลายในช่วงเวลาวิกฤตแห่งความทุกข์ทรมาน และฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ในการฟื้นฟูพระศาสนจักรในความรัก โปรดประทับอยู่เคียงข้างและโปรดให้ลูกกล่าวถ้อยคำเช่นเดียวกับพระแม่ “ข้าพเจ้าคือผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”