สายประคำให้พลังแก่เรา
เมื่อยังเป็นเด็ก ดิฉันเคยสวดสายประคำพร้อมกัน ทั้งครอบครัวทุกวัน ดิฉันไม่มีกิจศรัทธาพิเศษใด ๆ ในเวลานั้น แต่เรามักลงท้ายแต่ละวันด้วยการร่วมกันสวด สายประคำ โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ และพี่น้องอยู่กัน พร้อมหน้า แต่เมื่อดิฉันมาเข้าอาราม ดิฉันเริ่มเข้าใจ คุณค่าของสายประคำ ดิฉันรับรู้ด้วยว่าผู้ก่อตั้ง คณะของเรา คือ คุณพ่อ เจมส์ อัลเบอริโอน (ซึ่งได้รับ แต่งตั้งเป็นบุญราศีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2003) มีความศรัทธาเป็นพิเศษต่อสายประคำ ท่านบอกว่า ถ้าปราศจากสายประคำ ท่านรู้สึกว่าไม่สามารถ ตักเตือนสั่งสอนใครได้ ท่านสนับสนุนเรา ผู้เป็นธิดา ของท่าน ให้สวดสายประคำเป็นประจำ ดิฉันจึงเริ่มรัก การสวดสายประคำ และเริ่มนำสายประคำติดตัว ไปทุกที
เมื่อมีสายประคำอยู่ในมือ ดิฉันเชื่อมั่นว่า พระนางมารีย์จะทรงพิทักษ์คุ้มครองดิฉัน อันที่จริง ถ้าดิฉันออกไปนอกบ้านโดยไม่มีสายประคำ ดิฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือรู้สึกว่าลืมบางสิ่งที่มีค่าสำหรับดิฉัน ดิฉันขอเล่าสามเหตุการณ์ที่ทำให้ดิฉันได้สัมผัสกับอานุภาพ
ครั้งหนึ่ง พวกเราสองคนกำลังไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ ๆ หลายแห่ง พร้อมกับนำหนังสือไปด้วย เพื่อแบ่งปันความเชื่อของเรา เวลานั้น เรายังเด็กรู้สึกว่าเราด้อยกว่า และขี้อายเกินกว่าจะเข้าไปพูดคุย กับผู้ชายที่มีความรู้เหล่านั้น เราถามตนเองว่า “กระแสเรียกของเราส่งเราไปรับใช้คนเหล่านี้ ถ้าเช่นนั้น เราควรรู้สึกอายและรู้สึกว่าเราด้อยกว่าเขาหรือ ความกลัวนี้เป็นผลงานของปีศาจ” เราตัดสินใจ สวดภาวนาทั้งเพื่อตัวเราและคนเหล่านั้น ด้วยการเฝ้าศีล ซึ่งรวมการสวดสายประคำด้วย วันต่อมาเราออกไปปฏิบัติพันธกิจของเราในการเยี่ยมเยียน สำนักงานเหล่านั้นได้โดยปราศจากความลังเลใจ
อีกครั้งหนึ่ง ดิฉันต้องกลับบ้านตามลำพัง หลังจาก การเดินทางส่งเสริมกระแสเรียก เวลานั้นดึกแล้ว และมีตมาก ไม่มีใครออกมารับฉัน ดิฉันต้องเดิน ประมาณ 15 นาที โดยอาศัยแสงเล็ก ๆ จากในเมือง ที่มองเห็นได้เป็นระยะ ดิฉันกลัวสถานที่นั้น จึงนำสาย ประคำออกมาและเริ่มต้นสวด ดิฉันเดินตรงไปยังบ้าน โดยไม่มองข้าง ๆ จากนั้นก็ออกวิ่ง ความกลัวของ ดิฉันหมดไปพร้อมกับสายประคำ เมื่อดิฉันไปถึงบ้าน ดิฉันพบคุณแม่กำลังรอดิฉันพร้อมกับสายประคำในมือ ของทาน ดิฉันรู้สึกโล่งใจและเหตุการณ์สุดท้าย ดิฉันได้รับข่าวว่าพี่ชายของดิฉันที่เป็นพระสงฆ์กำลัง ป่วยหนัก และดิฉันควรกลับบ้านทันที ดิฉันไม่สบายใจมาก และต้องใช้เวลาเดินทางถึงหกชั่วโมง ดิฉันสวดและกำสายประคำไว้แน่นตั้งแต่ออกเดินทาง
ดิฉันเริ่มต้นสวดภาคชื่นชมยินดี และภาคโศกเศร้า จากนั้นจึงเริ่มสวดภาคสิริรุ่งโรจน์ เมื่อรำพึงถึงการเสด็จ ขึ้นสวรรค์ของพระเยซูเจ้า ประสบการณ์ทางฌาน เข้าครอบงำดิฉัน ดิฉันบอกไม่ได้ว่ากำลังนอนหลับ หรืออยู่ในภวังค์ ดิฉันบรรยายสถานการณ์นั้นไม่ได้ ดิฉันรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในทันทีทันใด และตกอยู่ใน สภาวะเพ่งพิศภาวนาอย่างล้ำลึก เมื่อดิฉันมาถึงบ้าน ดิฉันจึงทราบว่านั่นเป็นเวลาที่พี่ชายของติฉันออก จากโลกนี้และเข้าสู่โลกนิรันดรของเขา ดิฉันยังรู้สึกว่า ประสบการณ์นี้มีค่าอย่างยิ่ง เพราะพระคุณ ของพระแม่มารีย์จริง ๆ ดิฉันมีความศรัทธาเป็นพิเศษ ต่อสายประคำ
Sr.Vimala Nil Savarimuthu
Mumbai, India